ไบรท์ตัน พบ เชลซี

นกนางนวลบินสูง! ไบรท์ตัน ถล่ม เชลซี กระจุย 3-0!

มิโตมะฟอร์มเทพ! ไบรท์ตัน เฉือน เชลซี 3-0 ในเกมอันดุเดือด ที่ทำให้แฟนบอลสิงห์บลู ต้องเศร้า!

ในเกมพรีเมียร์ลีกที่น่าตื่นเต้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน เปิดบ้านที่ดิ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ปะทะกับสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี และแจกความช้ำใจให้กับแฟน ๆ ทีมเยือนอย่างสุดขีด เมื่อไบรท์ตันโชว์ฟอร์มสุดยอด ถล่มเชลซีไปอย่างขาดลอยถึง 3-0!

ในนาทีที่ 27 คาโอรุ มิโตมะ แนวรุกสุดแน่นจากญี่ปุ่นคนนี้ได้พังประตูแรก โดยเขาทำได้โดยการลากบอลเข้าหาเขตโทษอย่างเนียนตาก่อนที่จะซัดเข้าไปอย่างเฉียบขาด ทำให้เสียงกรีดร้องแห่งความดีใจดังลั่นจากแฟนบอลนกนางนวล โดยอีกไม่กี่นาทีต่อมา ยานคูบา มินเตห์ ก็ไม่รอช้าที่จะส่งลูกบอลเข้าตาข่ายอีกสองครั้งในครึ่งแรก ทำให้สกอร์ขึ้นนำไปเป็น 3-0 อย่างรวดเร็วจนเชลซีต้องมานั่งคิดว่า "เรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่!"

แม้ในครึ่งหลัง เชลซีจะพยายามแก้เกมและทำให้ดีขึ้น แต่ทุกอย่างถูกดันให้เลวร้ายกว่าที่คิด เพราะการโจมตีของไบรท์ตันยังคงดุดัน ฝ่ายเชลซีมีแต่ความพยายามที่ไร้ผลเท่านั้น นักเตะตัวสำคัญของพวกเขาหลายคนดูเหมือนจะหมดแรงและไม่สามารถหาช่องว่างในการทำประตูได้เลย ในที่สุดการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์ 3-0 สร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอลสิงห์บลูอย่างมาก

อีกไม่นานเรื่องนี้อาจเป็นบทเรียนที่เชลซีต้องเรียนรู้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ไบรท์ตันเข้าสู่ช่วงที่สดใสในฤดูกาลนี้ด้วยการเก็บ 3 คะแนนจากเกมนี้ ทำให้พวกเขาขยับขึ้นไปรายชื่อทีมอันดับที่ 8 มีคะแนนทั้งหมด 37 คะแนนในลีก ผลงานที่น่าชื่นชมของทีมก็ต้องยกเครดิตให้กับ คาโอรุ มิโตมะ ที่นำทีมด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงในเกมนี้

ข้อมูลน่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับไบรท์ตันคือ พวกเขาเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง แม้ไม่ใช่ทีมใหญ่ แต่มีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นในเมือง โดยพวกเขาก่อตั้งทีมฟุตบอลในปี 1901 ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ทุ่งบริเวณเอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ที่รองรับแฟนบอลได้ถึง 30,750 คน ที่สำคัญคือ ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้พวกเขาอยู่บนเส้นทางที่ดีในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่โหดร้ายนี้

ส่วนเชลซีเป็นหนึ่งในทีมที่มีชื่อเสียงในพรีเมียร์ลีก แต่ในช่วงนี้กำลังเผชิญกับปัญหาฟอร์มการเล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ฤดูกาลนี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นฤดูกาลแห่งความท้าทาย ซึ่งครั้งล่าสุดที่เชลซีต้องพ่ายแพ้แบบนี้เกิดขึ้นในปี 2020 แต่ในทางกลับกัน หากพวกเขาปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ก็อาจลุ้นกลับไปอยู่ในท็อปอันดับได้อีกครั้งตรงหน้า!