มาตรา 112

แสตมป์ อภิวัชร์: มาตรา 112 กับแชทส่วนตัวที่ข่มขู่หรือแค่เข้าใจผิด?

มาดูกันว่า ทำไมแชทส่วนตัวอาจกลายเป็นเครื่องมือในการฟ้องร้องภายใต้ ม.112 และเสียงสะท้อนจากคนใกล้ชิดว่ามันสะท้อนปัญหาใหญ่ยังไง!

เมื่อไม่นานมานี้ เกิดกรณีที่สร้างความฮือฮาในสังคมเกี่ยวกับมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายที่หลายคนมองว่าเป็นเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้ในการกลั่นแกล้งและคุกคามผู้อื่น โดยเฉพาะกรณีของ แสตมป์ อภิวัชร์ นักร้องชื่อดังที่ต้องเผชิญข้อกล่าวหาในเรื่องนี้จากคู่กรณี เนื้อหาที่ส่งมาในแชทส่วนตัวของเขากลับกลายเป็นหลักฐานสำคัญที่มีความเสี่ยงในการฟ้องร้องตาม ม.112 ตามที่ทนายความอ้างถึงความหมายของข้อความนั้น เช่นเดียวกับที่ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้สะท้อนปัญหาชี้ว่าการตีความมาตรานี้อาจขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน

ในกระบวนการนี้ ตัวแทนของตำรวจอย่าง พริษฐ์ ได้ออกมายืนยันว่าหน่วยงานไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของแสตมป์ แต่ในฐานะผู้แทนประชาชน ย่อมต้องติดตามและตรวจสอบประเด็นดังกล่าวเพื่อป้องกันการใช้มาตรานี้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบที่รุนแรงต่อระบอบการปกครองและสิทธิสตรีในสังคม

ขณะที่ นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร อดีตผู้สมัคร ส.ส. ก็ได้เสนอว่า ก่อนที่จะใช้ ม.112 ควรมีการพูดคุยกันระหว่างคู่กรณีเพื่อเข้าใจในเกิดทางเศรษฐกิจ อีกทั้งเธอยังชี้ให้เห็นว่า ไม่ควรสร้างความน่าหวาดกลัวถ้าคุณไม่ได้ทำอะไรผิด โดยยืนยันว่าสังคมควรหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสร้างสรรค์ มากกว่าการมุ่งฟ้องฟ้องกันไปมา

สำหรับประเด็นเรื่องมาตรา 112 นั้นต้องยอมรับว่ามันเป็นกฎหมายที่มีความซับซ้อน โดยมีทั้งผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านกันอย่างเข้มข้น และกรณีนี้อาจสะท้อนปัญหาในหลาย ๆ แง่มุมอีกด้วย ที่จริงแล้ว ม.112 เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญในกระบวนการรักษาความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม การตีความที่กว้างเกินไป ทำให้เกิดความวิตกกังวลในสังคม เนื่องจากมันสามารถนำมาใช้ในทางที่ผิดได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในบริบทของการคุกคามทางออนไลน์