ป้าติ๋มชะตาขาด! คดีมรดก 100 ล้านบาทจากแหม่มชาวฝรั่งเศสต้องพังทลายหลังตำรวจสืบพบความผิดใกล้ตัว!
ข่าวที่เกิดขึ้นในเกาะสมุยเป็นที่ฮือฮาเมื่อป้าติ๋ม แม่บ้านสาวชาวไทย ที่หวังว่าจะได้รับมรดก 100 ล้านบาทจากการเขียนพินัยกรรมของแหม่มชาวฝรั่งเศสที่เสียชีวิตอย่างสงสัย แต่ฟ้ามีตา เมื่อหลังจากการสืบสวนยาวนานกว่า 7 เดือนกลับมีอุปสรรคมากมายที่ทำให้ฝันของเธอต้องพังทลายลงก่อนถึงฝั่งฝัน
เมื่อแหม่ม นางแคทเทอร์รีน นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส ได้ทำพินัยกรรมยกมรดกทั้งหมดให้กับป้าติ๋ม ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะเต็มไปด้วยความผูกพันหรือไม่มีอะไรเลย แต่ที่แน่ชัดคือ หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นข่าวอื้อฉาวนี้ ตำรวจได้เข้ามาสืบสวนอย่างเอาจริงเอาจัง โดนหลักฐานที่หามาได้พบว่าทรัพย์สินที่ได้มาในชื่อของป้าติ๋ม กลับมีความสัมพันธ์กับการกระทำที่ไม่ถูกต้องที่เกี่ยวข้องกับสองบริษัทและคนไทยอีกสองคนที่ต้องสงสัยในฐานะนอมินี.
ในตอนแรกป้าติ๋มมีความหวังว่าจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย แต่เมื่อความจริงเปิดเผย ปัญหาทางกฎหมายกับบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องทำให้เธอต้องพบเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากใจหลังจากนั้น ข้อบังคับทางกฎหมายที่ซับซ้อนเกี่ยวกับมรดกทำให้ต้องเจออุปสรรคมากมายจนแทบหมดหวัง ทีนี้ใครคิดว่าเงิน 100 ล้านบาทจะมาง่ายๆ ตอนนี้รู้แล้วว่าทุกอย่างไม่ง่ายเหมือนที่คิด
แต่ข่าวดีคือ แม้ว่าป้าติ๋มจะไม่ได้มรดกทั้งหมด แต่อาจมีทรัพย์สินบางส่วนที่เธอได้รับก่อนหน้านี้ที่อาจเป็นของเธอตามกฎหมาย โดยอัยการอาวุโสยังได้ระบุถึงสิทธิของเธอในคดีนี้ อาจจะทำให้ป้าติ๋มมีโอกาสที่จะยังคงมีชีวิตที่ดีได้ในที่สุด
นอกจากนี้ เมื่อลองมองลึกลงไปในกรณีนี้ จะเห็นได้ว่า มรดก 100 ล้านนั้นอาจไม่ใช่เพียงแค่เงิน แต่ยังเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างบุคคล และยังแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่แท้จริงในการมีมรดกเป็นจำนวนมาก ที่อาจนำมาซึ่งปัญหาและความตึงเครียดมากมายในชีวิตได้เช่นกัน!
ดับฝัน “ป้าติ๋ม” แม่บ้าน หมดสิทธิ์รับมรดก100 ล้าน ของแหม่มชาวฝรั่งเศส หลังตำรวจสืบสวนนานร่วม 7 เดือน หอบหลักฐานเรียก 2 คนไทย เข้าข่ายนอมินี.
จากกรณีนางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี หญิงนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย จบชีวิตตนเองและได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สิน 100 ล้าน ให้ "ป้าติ๋ม" แม่บ้านคนสนิทนั้น.
สืบ 7 เดือน! ดับฝัน “ป้าติ๋ม” รับมรดก 100 ล้าน ของสาวแหม่ม หลัง ตร.เข้าแจ้งความเอาผิด 2 บริษัท รวมทั้งแหม่มที่เสียชีวิต และ 2 คนไทย ฐานเป็นนอมินี.
ป้าติ๋ม ยังได้มรดก 100 ล้าน ยึดคืนไม่ได้ อ.ปรเมศวร์ ชี้ไม่เกี่ยวธุรกิจหญิงฝรั่งเศส แนวทางคำพิพากษาระบุเอาไว้ พร้อมยกตัวอย่าง จากกรณีหญิงสาวชาวฝรั่งเศส.
ข่าวภาคค่ำ - ตำรวจร้องเอาผิดบริษัทเอกชน 2 ราย และคนไทย 2 คน พร้อมนักธุรกิจหญิงชาวฝรั่งเศสที่ยกพินัยกรรมให้แม่บ้าน ก่อนฆ่าตัวตายในวิลลาหรู หลังสืบสวนพบว่าทรัพย์สินที่ได้มาเข้าข่ายเป็นนอมินี ...
) จากกรณีทางตำรวจได้หอบหลักฐานเข้าแจ้งความตำรวจเกาะสมุย เพื่อดำเนินคดีกับ 2 บริษัท รวมทั้งแหม่มชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลล่าหรูซึ่งฆ่าตัวตาย และทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินประมาณ 100 ล้าน และคนไทยอีก 2 ...
คดีที่มีหญิงชาวฝรั่งเศส เสียชีวิตในบ้านพักหรู ที่เกาะสมุย และยกทรัพย์สินมูลค่า 100 ล้านบาท ให้กับ “ป้าติ๋ม” แม่บ้านคนสนิท ล่าสุดเพื่อนสนิทของป้าติ๋ม เผยว่าป้าติ๋มไม่ได้ทำงานที่วิลล่าแล้ว ส่วนทรัพย์สินในพินัยกรรม ...
"ป้าติ๋ม" ไม่ได้มรดกกว่า 100 ล้านบาท ตามที่แหม่มนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส ทำพินัยกรรมยกให้ แต่ทรัพย์สินบางส่วนที่ได้ก่อนหน้านี้ นักฏหมายชี้ว่าตกเป็นของ "ป้าติ๋ม" แล้ว ป้าติ๋ม ไม่ผิดหวัง หลังวืดมรดก 100 ล้านบาท ...
จากกรณีหญิงสาวชาวฝรั่งเศส วัย 59 ปี นักธุรกิจให้เช่าวิลล่าบนเกาะสมุย จบชีวิตตัวเองในวิลล่า โดยได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิท ประกอบด้วย บ้านหรือวิลล่าหรูพร้อมที่ดินที่เกิดเหตุ ...
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชัดเจนแล้วว่า "ป้าติ๋ม" คงจะไม่ได้มรดกกว่า 100 ล้านบาท ตามที่แหม่มนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส ทำพินัยกรรมยกให้ แต่ทรัพย์สินบางส่วนที่ได้ก่อนหน้านี้ นักฏหมายชี้ว่าตกเป็นของ "ป้าติ๋ม" แล้ว ...
หลังจากวานนี้ (26 พ.ย.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินคดีกับ บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด ,บริษัท ...
ป้าติ๋ม ยันได้ทรัพย์สินตามที่แหม่มแคทเทอร์รีนเขียนพินัยกรรมไว้ รับใช้ชีวิตปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่ซีเรียสด้านคดี ขออยู่แบบเงียบๆ ไม่ขอให้ข้อมูล.
สนามข่าว 7 สี - "ป้าติ๋ม" แม่บ้านมรดก 100 ล้านบาท เผยไม่ผิดหวัง หากชวดรับมรดกของมาดามนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส ด้าน อัยการอาวุโส ชี้ป้าติ๋มต้องได้มรดก เพราะคดีทำธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ...
จบคดีพิพาทมรดก 100 ล้านบนเกาะสมุย ป้าติ๋ม ไม่ได้รับมรดก ตำรวจแจ้งความทั้งบริษัทและตัวบุคคล กรณีฝ่าฝืนกฎหมายที่ดินคนต่างชาติ มองว่าเป็น นิติกรรมอำพราง.