กลับมาทวงบัลลังก์ความลุ้นระทึกกับ "The Platform 2" ที่จะพาคุณไปพบกับความหนาวเหน็บในห่วงโซ่แห่งชีวิต!
ในวงการหนังระทึกขวัญที่เต็มไปด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ "The Platform" ถือเป็นหนังที่ทำให้คนดูตื่นตาตื่นใจ ด้วยแนวทางที่ไม่เหมือนใคร เมื่อถึง "The Platform 2" ภาคต่อที่ทุกคนรอคอยมานาน 4 ปี กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง พร้อมเปิดฉากฟาดฟันกับคำถามใหญ่ของสังคมมนุษย์อย่าง "ชีวิตที่ต้องขับเคี่ยวเพื่อความอยู่รอด" ที่สุดท้ายแล้ว อาจจะทำให้เราคิดกระบวนทัศน์ในการใช้ชีวิตใหม่ในแบบที่ทุกคนไม่ได้คาดคิดมาก่อน
เมื่อมาถึงภาคนี้ แน่นอนว่าความลุ้นระทึกยังคงอยู่ แนวคิดเบื้องหลังก็ยังแข็งแก่ง พร้อมดึงดูดคนดูให้อยู่ในห้วงอารมณ์ที่เคร่งเครียดไปกับตัวละครที่ต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือดในห่วงโซ่ที่เย็นชา หากแต่กาลเวลาผ่านไป ทำให้เรื่องราวหลายช่วงเวลาค่อยๆ จะเลือนลางไปตามช่วงชีวิตของผู้ชม บางทีบทสรุปที่เคยฟังดูชัดเจนกลับกลายเป็นข้องใจและทำให้เราหันมาตั้งคำถามกับสิ่งที่เคยรับรู้มากขึ้น
ตามที่คาดหวัง "The Platform 2" ยังคงถ่ายทอดความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่ความน่าสะพรึงกลัวของการดิ้นรนเอาชีวิตรอด ความรักที่อาจจะเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้าย และความเป็นคนที่เราทุกคนพึงใจกับภาพลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ในแต่ละคนให้โลกได้เห็น หมดไปจากการจมอยู่ในภวังค์ของการเป็นเหยื่อ บางทีมันอาจจะเป็นการกระตุ้นให้เราต้องหันมามองถึงความอาจจะประเมินค่าตัวเองต่ำเกินไปในภาวะดังกล่าว
ทั้งนี้ ความจงรักภักดีต่อประเด็นที่สังคมต้องเผชิญ ชวนให้เกิดการตรึงความคิดถึงสิ่งที่ไม่ได้อยู่ใน "The Platform 2" ก็มีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสำคัญของการแบ่งปันอาหาร ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชีวิตของคนเราต้องมีการร่วมมือกันมากขึ้น บทสรุปที่ทำให้เราต้องย้อนกลับมาหาตนเอง คือ เราต้องช่วยเหลือกันอย่างไรในสภาวะที่ชีวิตมีความเครียดมากขึ้น
นอกจากที่ว่ามา "The Platform 2" ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายในด้านการถ่ายทอดศิลปะการสร้างภาพ โดยเฉพาะการตั้งค่าแสงและเงาที่เบลอความจริงขณะเดียวนั่น ในด้านบทภาพยนตร์ก็อีกด้านที่ชวนให้ติดตามไปกับแต่ละตัวละครจริงๆ รอคอยดูว่าความเต็มใจในการเปิดใจหรือความอาจจะพร้อมที่จะทำให้เราเปลี่ยนมุมมองตัวเองสามารถนำไปสู่ที่ไหนในอนาคต!
การกลับมาอีกครั้งในรอบ 4 ปีของหนังระทึกขวัญคอนเซ็ปต์ปังที่เคยเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี แต่กาลเวลาผ่านไป ภาพจำเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก็ค่อย ๆ จะเลือนลางเกือบจ.