กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

แม้ยกเลิกกิจการ แต่เก็บเงินได้! กสิกรไทยยังคงสบายใจ

ธนาคารกสิกรไทยหันยกเลิก 2 กิจการ แต่ไม่กระทบฐานะการเงิน ฟังเหตุผล!

เมื่อวันที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ได้มีประกาศยกเลิกกิจการบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด และบริษัท แคปเชอร์ วัน จำกัด นับว่าเป็นข่าวที่ทำให้หลายคนสงสัยว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ส่งผลอย่างไรต่อแบงค์บิ๊กที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย และที่สำคัญคือเศรษฐกิจโดยรวมจะได้รับผลกระทบหรือไม่?

ในการแจ้งยกเลิกกิจการของ KBANK ตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยแพร่ บอกได้เลยว่ามันไม่ได้มีผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินของธนาคารอย่างที่หลายคนอาจจะคิดออกไป การตัดสินใจนี้สะท้อนได้ว่า ความคมชาญในตลาดของ KBANK ยังคงมีความสามารถในการตัดสินใจที่ดี เพื่อที่จะเลี้ยงการเติบโตทางเศรษฐกิจขององค์กร และยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องจะไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลกับรายได้ที่ลดลงในอนาคตจากการยกเลิกทั้งสองกิจการนี้

ว่าแต่! เค-เอสเอ็มอี และ แคปเชอร์ วัน คืออะไร? บริษัท เค-เอสเอ็มอี ทำหน้าที่ในการให้บริการและสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ดูแลเรื่องการเงินให้กับกลุ่มธุรกิจนี้ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่วน แคปเชอร์ วัน ก็มุ่งเน้นในด้านการเก็บข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายได้ โดยที่เนื้อหาของแต่ละบริษัทที่มีลักษณะเฉพาะและตลาดที่แข่งขันกันก็ทำให้เป็นที่น่าสนใจในยุคนี้

ในปัจจุบัน หลายกิจการที่ทำหน้าที่เป็นสตาร์ทอัพ มักมีการแข่งขันที่ดุเดือดกับทุนใหญ่และบริษัทที่มีความเสถียร การยกเลิกกิจการของ KBANK จึงถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนการปรับตัวเมื่อพบว่า บางกิจการอาจจะไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นสัญญาณให้เห็นถึงความยั่งยืนทางการเงินของธนาคารด้วยว่า แม้ยกเลิกกิจการ ก็ยังไม่มีปัญหาต่อฐานะการเงินมากนัก

สนใจหรือไม่? เคยรู้ไหมว่า KBANK เป็นหนึ่งในธนาคารที่ลงทุนในเทคโนโลยีการเงิน (FinTech) มากที่สุดในไทย? สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของทางธนาคารในการปรับตัวรองรับอนาคตและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับวิสาหกิจอีกด้วย นอกจากนี้ ในประเทศไทย มีธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ที่มากมายเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน แต่ความท้าทายคือการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและโอกาสในการเติบโต!